วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แตงโม (watermelon)


แตงโมเป็นผลไม้เป็นผลใหญ่สีเขียวเข้ม เนื้อในสีแดงฉ่ำ มีเมล็ดสีดำ บางพันธ์ลูกกลม บางพันธ์ลูกยาวรี บางพันธ์มีสีเหลืองทั้งเปลือกนอกเนื้อใน รสชาติหวานกรอบ มีขายตลอดปี
แตงโมอุดมไปด้วยสารอาหารจำพวกวิตามินเอ วิตามินบี 6 และเส้นใยอาหาร เมื่อรับประทานเนื้อสีแดงเข้าไป สารอาหารพวกนี้จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของไต ช่วยให้ขับของเสียออกจากร่างกายเป็นอย่างดี และเส้นใยอาหารที่มีอยู่ในแตงโม ก็จะเป็นยาระบายอ่อน ๆ ได้ดีอีกด้วย
การรับประทานแตงโมในหน้าร้อนจะช่วยดับกระหาย ทำให้ผิวที่ร้อนระอุเกิดความชุ่มชี้น เย็นสบาย เพราะแตงโมมีสารที่สามารถเก็บความเย็นไว้บนผิวของเราได้นาน และดีกว่าผลไม้ชนิดอื่น ๆ
น้ำแตงโมมีรสชาติหอมหวาน แก้อาการกระหายน้ำ อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ ขับปัสสาวะ และแก้ร้อนในได้ดี
เปลือกของแตงโม มีประโยชน์ เพียงแต่เรานำเปลือกของมันมาปิ้งไฟ หรือนำไปตากแห้งแล้วนำมาบดให้เป็นผง ใช้ทาแก้แผลในปากได้ หรือนำเปลือกแตงโมมาต้มกับเปลือกฟัก ตักเอาแต่น้ำมารับประทาน ช่วยบรรเทาอาการโรคเบาหวาน
อ้างอิงจากหนังสือสมุนไพร ผลไม้เพื่อสุขภาพและรักษาโรค

ลิ้นจี่ (Lichee)


เป็นผลไม้เมืองร้อน มีรสชาติหวานมากกว่าเปรี้ยว เนื้อในสีขาวฉ่ำ มีเม็ดสีดำ มีน้ำตาลเยอะกว่าเงาะ มีฤทธิ์ร้อน นิยมปลูกภาคเหนือของไทย แต่ก็ยังมีบางพันธ์ที่สามารถปลูกที่ภาคกลางได้ ตามรูปเป็นลิ้นจี่พันธ์จักรพรรดิ์ ผลใหญ่กว่าพันธ์ฮงฮวย ผลผลิตจะออกมาช่วงหน้าร้อน ในราวเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน
ลิ้นจี่อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส น้ำตาล เป็นยาบำรุงกำลัง แก้ท้องเดิน แต่ไม่ควรทานมากเกินไป เพราะลิ้นจี่มีฤทธิ์เป็นยาร้อน อาจทำให้เกิดอาการร้อนในได้
น้ำลิ้นจี่ช่วยดับกระหาย บำรุงประสาท และเป็นยาระบายอ่อน ๆ
อ้างอิงจากหนังสือสมุนไพร ผลไม้เพื่อสุขภาพและรักษาโรค

วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เงาะผลไม้ไทย


ผลผลิตจะออกมาในช่วงฤดูร้อนของไทย ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงมิถุนายน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เปลือกนอกสีแดงมีขนรอบ เนื้อในสีขาว รสหวาน กรอบ อร่อย มีน้ำตาลเยอะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานไม่ควรทานมากนัก เงาะพันธ์ที่นิยมกันมากได้แก่ เงาะโรงเรียน
เงาะยังอุดมไปด้วยแร่ธาติ วิตามิน เช่น วิตามินซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก
เปลือกเงาะ มีรสฝาดสมาน และมีสารแทนนินอยู่ด้วย ให้นำเปลือกเงาะไปต้มกับน้ำดื่ม สามารถเป็นยาขับพยาธิ แก้อักเสบ และมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยรักษาโรคท้องร่วง และแผลอักเสบในช่องปาก ส่วนเมล็ดเงาะมีพิษกราย ๆ ถึงแม้จะทำให้สุกแล้วก็ตาม ไม่ควรทาน เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นเหียน วิงเวียนศีรษะ ปวดท้องและอาเจียนได้

อ้างอิงจาก หนังสือสมุนไพร ผลไม้เพื่อสุขภาพและรักษาโรค

วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553

องุ่น (grape)


เป็นผลไม้ผลกลมเล็ก อยู่กันเป็นพวง มีทั้งสีแดง สีเขียว สีดำ ทั้งมีเมล็ดและไม่มีเมล็ด รับประทานกันได้ตลอดปี เนื่องจากได้มีการนำเข้าจากต่างประเทศ และที่ปลูกเองในประเทศไทย รสชาติหวาน และเปรี้ยว
องุ่น เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เหล็ก แคลเซียม กรดซิตริก น้ำตาลซูโคสและกลูโคส ทองแดง ซิลิคอน ฟอสฟอรัส ผลเมื่อทานเข้าไปช่วยบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง ขับปัสสาวะ แก้กระหายน้ำ ลูกเกดหรือน้ำองุ่นเข้ม มีส่วนประกอบสำคัญแทรกแซงกระบวนการทางร่างกาย ช่วยทำลายเซลล์มะเร็งและยังช่วยรักษาโรคโลหิตจางได้ด้วย
ปัจจุบันนิยมนำองุ่นไปทำไวน์ สำหรับสาวสาวที่ต้องการลดน้ำหนัก สามารถรับประทานแทนอาหารเย็นสัก 10-15 วัน เพราะองุ่นมีสารอาหารช่วยล้างพิษ และมีกากใยสูง ทำให้ระบายท้องได้ดี ไม่ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ
นอกจากนี้ น้ำองุ่นผสมกับน้ำสัปปะรดดื่มเป็นประจำ จะช่วยทำให้ใบหน้าอ่อนกว่าวัยได้
ข้อแนะนำก่อนรับประทานควรล้างให้สะอาด เพราะเนื่องจากการเพาะปลูกองุ่นต้องใช้สารฆ่าแมลงเยอะ

อ้างอิงจากหนังสือสมุนไพร ผลไม้เพื่อสุขภาพและรักษาโรค